ติวสอบ SAT

สนใจติดต่อได้ที่ 

090-985-5514 หรือ line id :@824yajay 

ได้ตลอด 24 ชม.ค่ะ

    น้องๆหลายคน สอบ SAT มากกว่า 2 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถได้คะแนนตามต้องการ เนื่องด้วยอะไรหรือ คำตอบไม่ยากเลยค่ะ นั่นก็เป็นเพราะความโหด ความหินของข้อสอบ SAT ในส่วนของ Critical Reading นั่นเอง น้องๆหลายๆคน คงแอบนึกในใจว่า ไม่รู้ว่าคนออกข้อสอบไปสรรหาคำศัพท์ยากๆ เหล่านี้มาจากไหนกันหนอ ทำไมไม่เคยพบเคยเห็น แหม่ น่าเห็นใจจริงๆค่ะ ก่อนอื่น สำหรับน้องๆที่ยังไม่เคยได้รู้จักกับเจ้าข้อสอบ SAT เรามาทำความรู้จักกันสักหน่อยนะคะ

SAT คืออะไร

   SAT หรือ เอสเอที เป็นข้อสอบมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงหลักสูตรInter ในเมืองไทย ใช้ประกอบการสมัครเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา คล้ายๆกับการแอดมิชชั่นที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละค่ะ เพียงแต่ว่าการสอบ SAT นั้น ไม่ได้วัดกันที่ความรู้วิชาการ แต่เป็นการวัดทักษะหรือ skills การใช้เหตุและผลค่ะ

ลักษณะข้อสอบของ SAT

   ข้อสอบ SAT มี 3 ส่วนค่ะ ได้แก่

   1. Critical Reading 

     เป็นส่วนของการอ่านเชิงวิเคราะห์ จะมีบทความสั้นๆมาให้อ่าน แล้วให้ตอบคำถาม ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมหลายแขนงเลยค่ะ เช่น วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วรรณกรรม รวมถึงการเติมประโยคให้สมบูรณ์

   2. Mathematics 

      ตามชื่อก็คือ คณิตศาสตร์ นั่นเองค่ะ ข้อสอบมีแบบเลือกคำตอบที่ถูกต้อง และเขียนคำตอบเอง เนื้อหาก็เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐาน และการแปลความหมายของกราฟ ตารางหรือชาร์ต เนื้อหาครอบคลุม 4 บทเรียนคือ ตัวเลขและการคำนวณ พีชคณิตและฟังก์ชั่น ตรีโกณมิติและการชั่งตวงวัด การิวเคราะห์ข้อมูล สถิติ และความน่าจะเป็นค่ะ

   3. Writing

      ส่วนนี้เป็นส่วนของการเขียนเรียงความ ซึ่งบางมหาวิทยาลัยจะไม่เอาคะแนนส่วนนี้ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบเลือกคำตอบที่ถูกต้อง ประกอบไปด้วยการหา errors การเปรียบเทียบ และเลือกข้อเขียนที่ดีที่สุดและแก้ไขปรับปรุงข้อเขียนสั้นๆ ให้ดีขึ้น

   โดยแต่ละส่วนนั้นจะมีคะแนนเริ่มต้นตั้งแต่ 200 ไปจนถึง 800 คะแนน คะแนนเต็มรวมของทั้ง 3 ส่วน คือ 2,400 คะแนน ซึ่งในส่วนของ writing นั้นยังแบ่งแยกย่อยออกเป็น 2 ส่วนค่ะ คือ ส่วน Error 20-80 คะแนน และส่วนของเรียงความ 2-12 คะแนน เวลาที่ใช้ในการสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง 45 นาทีค่ะ แต่ไม่สอบรวดเดียวเกือบ 4 ชั่วโมงนะคะ จะมีช่วงพักสั้นๆ เบรคระหว่างการทำข้อสอบแต่ละส่วนให้ค่ะ

การคิดคะแนน SAT

     การคิดคะแนนของการสอบ SAT นั้นออกจะโหดนิดๆ คือขั้นแรกจะให้คะแนนดิบก่อนค่ะ เมื่อตอบถูกจะได้ 1 คะแนน ตอบผิดหัก 0.25 คะแนน ถ้าไม่ต้องจะไม่ได้คะแนนในข้อนั้น คือไม่ได้และไม่เสียค่ะ ยกเว้นข้อสอบส่วนคณิตศาสตร์นะคะ ที่ให้เติมคำตอบเอง ถ้าตอบผิดจะไม่ถูกหักคะแนน ขั้นต่อไปจะนำคะแนนดับที่ได้มาแปลงเป็นคะแนนอิงกลุ่ม โดยเปรียบเทียบกับของทุกคนที่สอบครั้งเดียวกัน และเทียบกับคะแแนนเดิมสำหรับผู้ที่เคยสอบแล้วด้วย ซับซ้อนจริงๆเลยนะคะ

จะสอบ SAT อย่างไรให้ได้คะแนนตามเป้าหมาย

   ในการสอบ SAT นั้น น้องๆหลายๆคนที่ตอนเรียน ชอบจดจำคำศัพท์ อาจจะสามารถสอบผ่านได้ตั้งแต่ครั้งแรก เพราะการสอบ SAT นั้นนอกจากการคิดวิเคราะห์แล้ว น้องๆต้องมีคลังคำศัพท์อยู่จำนวนไม่น้อยเลยแหละค่ะ คำศัพท์ส่วนใหญ่เป็นคำศัพท์ที่น้องๆจะไม่ค่อยได้พบเห็น หรือบางคำอาจเคยเจอบ่อย แต่มีความหมายที่แทบไม่เคยใช้ และน้องๆก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามารถแปลเป็นอย่างอื่นได้ด้วย ทำให้หลายๆคน ต้องสอบ SAT มากกว่า 1 หรือ 2 ครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการสอบ SAT แต่ละครั้งคือ US$ 81  ไม่รวมค่าเสียเวลาและค่าเดินทาง ค่าตำรา ค่าเอกสาร หรือบางคนต้องเสียเงินไปติวกับสถาบันดังๆในย่านตัวเมือง ผจญกับการจราจรคับคั่ง พาลเครียดหนักเข้าไปอีก นี่จึงเป็นที่มาที่ admin อยากจะแนะนำให้น้องๆ ใช้บริการจัดหาติวเตอร์ ครูสอนพิเศษที่บ้าน ไปสอนให้น้องๆถึงที่ รวมไปถึง ติวเตอร์จะช่วยเลือกหนังสือ ตำรา เอกสาร ให้ได้อย่างเหมาะสม ไม่เสียเงินไปเปล่าๆ เพราะตำราบางเล่ม ซื้อมาก็ไร้ประโยชน์ มีแต่ข้อสอบ คำเฉลย อธิบายไม่ชัดเจน ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะข้อสอบยากเกินกว่าน้องๆ จะเข้าใจได้เอง นอกจากนี้ติวเตอร์ของเราจะแนะนำเทคนิคการทำข้อสอบให้น้องๆ รวมถึงแนะนำลักษณะข้อสอบ เช่น ข้อสอบจะเรียงลำดับจากง่าย ปานกลาง ยาก ไม่รวมการอ่าน passage นะคะ ถ้าเป็นข้อต้นๆ ก็คือจะง่าย เมื่อเจอตัวเลือกที่คิดว่าจะถูก แปลว่ามันก็จะถูก แต่ถ้าเป็นข้อหลังๆ ข้อที่เราคิดว่าถูกนั้น มักจะผิดเสมอ เพราะข้อที่น้องๆคิดว่าน่าจะถูกมักจะเป็นเพียงตัวหลอกค่ะ

   ในส่วนของการหา Errors นั้น ติวเตอร์ของเราจะช่วยแนะนำเทคนิคการหาเบื้องต้น คือการให้อ่านโจทย์โดยไม่ดูว่าคำไหนโดนขีดเส้นใต้ไว้ เพราะบางข้อที่ง่ายๆ อ่านแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าคำนั้นผิด แต่ถ้าน้องๆมัวแต่มองตัวเลือกก่อน อาจทำให้เกิดความลังเล หรือรู้สึกว่า ไม่เห็นจะมีอันไหนผิดเลย ก็ถูกทุกข้อหนิ นอกจากนี้ส่วนของการเขียน ติวเตอร์ของเราจะบอกน้องๆเสมอว่า เป็นส่วนที่อาจจะเตรียมตัวได้ยาก และน้อยที่สุด เพราะไม่รู้ว่าข้อสอบจะออกมาให้เขียนอะไร แต่ติวเตอร์ของเราจะปรับไวยากรณ์ของน้องๆให้เป๊ะ และให้ฝึกเขียนหลากหลาย เพราะเมื่อน้องๆมีความรู้พื้นฐานแน่น ไม่ว่าจะให้เขียนเรื่องอะไร น้องๆก็จะสามารถเขียนได้หมด

   มาในส่วนของ Math กันบ้างค่ะ ส่วนนี้น้องๆสามารถนำเครื่องคิดเลขเข้าไปได้นะคะ แต่โจทย์ส่วนใหญ่ที่ต้องคำนวณ มักจะไม่ค่อยยากและซับซ้อนเท่าไหร่ค่ะ น้องๆอาจสามารถคิดหาคำตอบได้เองค่ะ ตรงนี้ไม่ต้องกังวล แต่ปัญหาสำหรับน้องๆบางคน คือแปลโจทย์ไม่ออก หรือแปลโจทย์ผิด ดังนั้นติวเตอร์ของเราจะพยายามปูพื้นฐานเรื่องการทำความเข้าใจกับโจทย์ก่อนนะคะ ก่อนที่จะทำความเข้าใจในเรื่องของเนื้อหาหลัก น้องๆต้องขยันกันนิด สำหรับคนที่มีปัญหาส่วนนี้นะคะ 

   พบกับเทคนิคเพิ่มเติมอีกเพียบได้จากทีมติวเตอร์ของเรา ขอให้น้องๆมั่นใจได้เลยค่ะว่า รอบนี้ การสอบ SAT จะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายของน้อง